BLOG

4) การเลือกพาเลทพลาสติกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ตามพาเลทพลาสติกแต่ละประเภท

ปัจจุบัน พาเลทพลาสติก เข้ามามีส่วนรวมการจัดการในระบบงานคลังสินค้า และ งานโลจิสติกส์  ทำให้ การใช้พาเลทพลาสติก ต้องมีความระมัดระวังในการเลือกซื้ออย่างยิ่ง เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในการขายและการผลิต การเลือกซื้อพาเลทพลาสติกไม่เหมาะสมจะทำให้ต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการจัดหา

ปัจจัยในการเลือกพาเลทพลาสติก เพื่อให้เหมาะสมจึงมีด้วยกัน 3 ปัจจัย เช่น

1.ปัจจัยในการเลือกวัตถุดิบทีนำมาฉีด เป็นพาเลพลาสติก ทั้งนี้พาเลทพลาสติก ส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบเพียง 2 แบบ คือ 1.HDPE (HIGH DENSITY POLYETHLENE) และ  PP(POLYPROPYLENE)  วัตถุดิบ 2 ประเภทนี้ถ้าฉีดเป็นพาเลทพลาสติก แล้ว มีจะมีคุณลักษณะแตกต่างกัน

1.1.ถ้าใช้เม็ด HDPE (HIGH DENSITY POLYTHELNE) ฉ๊ด เป็นพาเลทพลาสติก จะทำให้พาเลทพลาสติก มีน้ำหนักมาก และ มีการแอ่นตัวเล็กน้อย เวลารับน้ำหนัก แต่จะไม่แตกเปราะง่าย การใช้งานจะมากกว่า และ พาเลทพลาสติกที่ฉีดด้วยเม็ด HDPE (HIGH DENITY POLYTHLENE ) นี้เหมาะสำหรับวางในที่อุณหภูมิที่ต่ำมาก เพราะไม่เปราะและแตกง่าย แต่มีข้อเสียตรงน้ำหนักมาก ทำให้อาจสิ้นเปลืองเวลาขนส่งสินค้า

1.2.ถ้าใช้เม็ด (PP) (POLYPROPYLENE) ฉ๊ดเป็นพาเลทพลาสติก จะทำให้พาเลทพลาสติกที่ฉีดนั้นมีน้ำหนักน้อย แต่สามารถรับน้ำหนักได้มาก เพราะคุณสมบัติของเม็ด PP (POLYPROPYLENE) มีความแข็งตัวและเกาะตัวกันสูง ทำให้เวลาเอาพาเลทพลาสติก ทีฉีดด้วยเม็ดนี้ จะสามารถรับน้ำหนักมาก และ ไม่มีการแอ่นตัว เนืองจากมีคุณสมบัติทีน้ำหนักเบาและรับน้ำหนักมาก ทำให้สามารถช่วยลดต้นทุนในการชนส่งได้ดี แต่ มีข้อเสียตรงที่ อายุการใช้งานจะน้อยกว่าพาเลทพลาสติกที่ฉีดด้วย เม็ด  HDPE เพราะจะเปราะและแตกได้ง่ายกว่า

2 ปัจจัยในการรับน้ำหนักของพาเลทพลาสติก เนื่องจากพาเลทพลาสติกมีทั้งแบบ ใช้งานหนัก (heavy plastic pallet) และ ใช้งานเบา (light plastic pallet) การเลือกใช้จึงต้องดูว่าต้องการรับน้ำหนักมากน้อยหรือมากเท่าไหร่ ขณะการใช้ของการใช้พาเลท หลักการเลือกต้องดู 3 ปัจจัย คือ 1. การรับน้ำหนักขณะวางอยู่กับที่ (static load) ถ้าเป็นพาเลทพลาสติก แบบใช้การงาน (heavy plastic pallet) จะต้องรับน้ำหนัก ได้มากว่า 4,500 กิโลกรัม และส่วนพาเลทพลาสติกแบบใช้งานเบา (light plastic pallet) จะรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 4,500 กิโลกรัม 2. การับนำหนักขณะวางบน FORKLIFT และ HANDLIFT (dynamic load) ถ้าเป็น พาเลทพลาสติกแบบ ใช้งานหนัก (heavy plastic pallet)  จะต้องรับน้ำหนักได้ มากกว่า 1,500 กิโลกรัม ส่วน พาเลทพลาสติก แบบใช้งานเบา (light plastic pallet) จะรับน้ำหนักไม่ได้เกิน 1,500 กิโลกรัม 3.การรับน้ำหนักบนคาน ( racking load) ถ้าเป็น พาเลทพลาสติกแบบ ใช้งานหนัก (heavy plastic pallet) จะรับน้ำหนักบนคาน 800 กิโลกรัมขึ้นไป แต่ถ้าเป็นพาเลทพลาสติกแบบใช้งานเบา (light plastic pallet) จะรับน้ำหนักบนคานได้น้อยกว่า 600 กิโลกรัม 3. ปัจจัยตามขนาดพาเลทพลาสติกเนืองจากพาเลทพลาสติกมีหลากหลายขนาด ผู้ใช้จึงควรคำนึงพื้นที่ และ สินค้าที่วางบนพาเลทพลาสติกกว่า จะพิจารณาเลือกชนาดพาเลทพลาสติกไหนถึงจะเหมาะสม

สรุปการเลือกใช้พาเลทพลาสติกให้เหมาะสมกับการใช้งาน จึงต้องคำนึงวัตถุดิบที่เป็นเป็นพาเลทพลาสติก การรับน้ำหนักในขณะอยู่กับที่ ในขณะเคลื่อนที่ และ การในชณะด้วยด้วยคาน และ ต้องคำนึงขนาดของพาเลทพลาสติก ซึ่งต้องใช้ 3 ปัจจัยหลักนี้ในการเลือกพาเลทพลาสติกเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด