ปัจจุบัน พาเลทที่ใช้งานแพร่หลายโดยทั่วไป จะแบ่งด้วยกัน 4 ประเภทใหญ่ คือ 1.พาเลทไม้ 2.พาเลทพลาสติก 3.พาเลทกระดาษ และ พาเลทเหล็ก ซึ่งแต่ละอย่างจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และ การใช้งานที่แตกต่างกัน ในที่นี้จะบรรยาย แต่ละประเภท เพื่อเป็นการเข้าใจ ของพาเลท แต่ละประเภท คือ
1.พาเลทไม้ เป็นพาเลทที่ใช้มานานที่สุด กว่าพาเลทประเภทอื่น เนื่องจากสมัยก่อน ยังไม่มีการใช้วัสดุอื่นทำพาเลท ทำให้มีการใช้พาเลทที่ทำจากไม้ ซึ่งเป็นวัสดุที่หาง่ายในสมัยก่อน ซึ่งการทำพาเลทไม้ก็ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ใช้ต้นทุนทีต่ำ ซึ่งการทำพาเลทไม้ก็โดยการนำไม้มาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมพื้นไม้ตามความกว้าง และ ยาวที่ต้องการ แล้ว นำประกอบเป็นพาเลทไม้ ซึ่งไม้ที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ยางพารา ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน แต่ การใช้พาเลทไม้ก็มีข้อจำกัด คือการมีเชื้อราในเนื้อไม้ มีมอด มีแมลง และมีเสี้ยน ซึ่งจะทำให้สินค้าเมื่อส่งออก หรือไม่ถึงลูกค้าปลายอาจมีความเสียหายของสินค้าได้ และ ปัจจุบัน มีประเทศต่างห้ามใช้พาเลทไม้เมื่อนำเข้าประเทศเช่นประเทศจีนเป็นต้น
2.พาเลทพลาสติก เป็นพาเลทที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากคุณสมบัติของพาเลทพลาสติก มีคุณสมบัติที่เหมาะกับทุกอุตสาหกรรม และ ไม่มีปัญหาเรืองเชื้อรา มอด แมลง และ เสี้ยน เหมือนพาเลทไม้ แต่การทำพาเลทพลาสติก ก็ใช้ต้นทุนที่สูง เนื่องต้องใช้เครื่องฉีดซึ่งต้องมีขนาดใหญ่ ประมาณ 2500 ตัน ขึ้นไป และ มีขั้นตอนที่ ยุ่งยากซับซ้อน ในการผลิตกว่าการผลิตพาเลทไม้ วัตถุดิบ ทีใช้ฉีดหรือขึ้นรูปเป็นพาเลทพลาสติก ส่วนใหญ่จะใช้ เม็ด PP และ เม็ด HDPE ข้อดีการใช้พาเลทพลาสติก คือ มีความสะอาด ทนทาน และ สามารถใช้ในพื้นที่อุณหภูมิติดลบได้ เนืองจากไม่มีการเกิดเชื้อราในเนื้อพาเลทพลาสติก และ ไม่ประเทศใดจำกัดการนำเข้าพาเลทพลาสติกอีกด้วย
3. พาเลทกระดาษ เป็นพาเลทเพื่อผลิตเพื่อแก้ปัญหาพาเลทไม้ เพื่อใช้ในการส่งออก เนื่องจาก พาเลทกระดาษ ไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อรา มอด แมลง และ เสี้ยน การผลิตก็ใช้ต้นทุนค่อนข้างต่ำ แต่สูงกว่าพาเลทไม้เล็กน้อย เนื่องจากต้องใช้เครื่องทำพาเลทกระดาษ แต่ข้อเสียก็พาเลทกระดาษ คือ ระยะการใช้งานค่อนข้างต่ำ เนื่องจากพาเลทกระดาษเป็นพาเลทเพื่อเหมาะสำหรับการส่งออกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่สามารถใช้นำมาหมุนเวียนใช้หลายครั้งได้ เนื่องจากพาเลทกระดาษทำด้วยกระดาษ เมื่อโดยน้ำจะเปียกยุ่ย และ เสียรูปร่าง
4. พาเลทเหล็ก เป็นพาเลทที่ต้องการแก้ไข้ในบางส่วนของพาเลทไม้ และ พาเลทพลาสติก วิธีทำก็คือ นำเหล๋กมาตัดเป็นความกว้าง ยาว เหมือนพาเลทไม้ และ นำมาประกอบ ซึ่งวิธีการคล้ายพาเลทไม้ แต่ใช้วัสดุเป็นเหล็กแทน ข้อดี พาเลทเหล็กคือ มีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้นานกว่าพาเลททุกประเภท แต่ข้อเสียคือมีน้ำหนักมาก เหมาะสำหรับแค่ว่าสินค้าอยู่กับที่ ไม่เหมาะสมใช้การใช้คู่กับ Forklift ในการเคลื่อนย้าย เนื่องมีน้ำหนักมาก และ มีการเลื่อนสูง การใช้เคลื่อนย้ายอาจทำให้สินค้าร่วงหล่นและเสียหายได้ง่าย
สรุป พาเลท ทั้ง 4 ประเภท ทั้งพาเลทไม้ พาเลทพลาสติก พาเลทกระดาษ และ พาเลทเหล็ก มีคุณสมบัติ และ ลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้พาเลท ทั้ง 4 ประเภท จึงต้องลักษณะที่เหมาะสมของแต่ละหน่วยงาน หรือ แต่ละบุคคล ไม่สามารถชี้เด่นชัดว่าพาเลท ประเภทไหนเป็นพาเลทที่ดีที่สุด